เครื่องประดับทองประเภท 18k gold

เครื่องประดับเงิน ทอง และทองคำขาว จัดเป็นโลหะมีค่า ซึ่งต้องมีคุณสมบัติทนทานต่อการผุกร่อน เกิดออกไซด์ (หมอง) ที่ผิวได้ยาก และที่สำคัญคือหายาก ซึ่งมีโลหะอยู่ 9 ชนิด

ที่จัดว่าเป็นโลหะมีค่า (Precious Metal): โลหะที่สำคัญในการทำเครื่องประดับคือ ทองคำขาว (Platinum), ทองขาว (White Gold), ทองคำ (Gold), เงิน (Silver), พาเลเดี่ยม (Palladium) และโรเดี่ยม (Rhodium) ล้วนแต่เป็นโลหะที่มีค่า (Precious Metal) ที่ใช้ในการทำเครื่องประดับ 18k gold  ในปัจจุบัน มาลองทำความเข้าใจให้ดี ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องประดับ18k gold ชิ้นต่อไปของคุณกันครับ…

ทองขาว ใช่ ทองคำขาว หรือไม่?

ทองคำขาว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า แพลทินัม (Platinum) ส่วนทองขาว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า ไวท์โกลด์ (White gold) ผู้ซื้อส่วนมากมักจะโดนร้านค้าสอนให้เรียกแบบผิดๆ ซึ่งทำให้สินค้าของตัวเองดูมีราคามากขึ้น แต่จริงๆแล้วทองคำขาว (Platinum) มีราคาสูงกว่าทองคำบริสุทธิ์ (Gold) ประมาณ 2 เท่า

14k gold, 18k gold, 22k gold อย่างไหนแพงกว่ากัน?

คำว่า K (Karat) กะรัตทอง ถ้ามีส่วนผสมหรือเปอร์เซ็นต์ทอง (%) ที่เท่ากันแล้ว ทองขาว จะแพงกว่าทองคำ เพราะว่าเงินและแพลเลเดียม ที่ใช้เป็นส่วนผสมของทองขาว มีราคาสูงกว่า ทองแดงและสังกะสีที่ใช้เป็นส่วนผสมของทองคำ (ส่วนทองคำขาว-Platinum เป็นโลหะที่ไม่ผสมกับโลหะอื่นๆ และเป็นคนละชนิดกับ ทอง และทองขาว)

เครื่องประดับเงิน 925 Sterling Silver คืออะไร?

เครื่องประดับเงิน หรือ Sterling Silver 925 ที่เราเห็นตัวเลขบ่อยๆ คือการใช้เนื้อเงิน 92.5% ผสมกับทองแดง 7.5% เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และทำให้สามารถดัดชิ้นงานได้ตามรูปทรงของเครื่องประดับที่ออกแบบไว้ แล้วชุบด้วยโรเดี่ยมเพื่อให้สวยงามแวววาว และป้องกันการหมองได้ดี ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตงานเครื่องประดับ

โรเดี่ยม (Rhodium) คืออะไร?

โรเดี่ยม (Rhodium) เป็นโลหะมีค่าที่แพงที่สุดในกลุ่ม (แพงกว่าทองคำประมาณ 10 เท่า) ในวงการเครื่องประดับใช้ชุบเคลือบชิ้นงานที่ทำจากทองคำ และเงิน เพื่อให้มีความแวววาวสวยงาม และคงทน เครื่องประดับที่เป็นมาตรฐานต้องชุบโรเดี่ยม โดยปราศจากการผสมนิกเกิล (ซึ่งมีราคาถูกมาก) แต่จะทำให้ผู้สวมใส่แพ้ได้ง่าย นอกจากนั้นแล้ว ผู้ขายมักจะบอกผู้ซื้อว่าเป็นงานโรเดี่ยม! ซึ่งไม่เป็นความจริงเนื่องจาก โรเดียมเป็นโลหะที่แพงมาก และจุดหลอมเหลวสูงมาก ไม่สามารถนำมาขึ้นรูปเป็นตัวชิ้นงานได้ ดังนั้นเราใช้โรเดียมในการชุบเท่านั้น และการชุบโรเดียมในชิ้นงานที่ทำจากทองขาว และเงิน จะทำให้เครื่องประดับแวววาว สวยงาม นานขึ้น

ทองขาว (ทองคำมาผสมกับ เงินและแพลเลเดียม) เมื่อยังไม่ชุบ จะเป็นสีนวลๆ เหลืองอ่อนๆ ดังนั้นจึงต้องนำมาชุบด้วยโรเดี่ยม เพื่อความแวววาว และเพิ่มความสวยงามให้ชิ้นงาน

คำถามที่พบบ่อย คือชุบโรเดี่ยมแล้วหมองหรือไม่ ? หากว่าเครื่องประดับที่ซื้อมีมาตรฐานการชุบอย่างดี ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเครื่องประดับด้วย โดยปกติการสวมใส่ และเช็ดตัวเรือนด้วยผ้าอาบน้ำยา หรือล้างทำความสะอาดดีๆ ก็จะเคลือบผิวชั้นนอกเพื่อป้องกันออกไซด์ แล้วเก็บรักษาในกล่องไว้ การดูแลอย่างถูกวิธี จะทำให้เครื่องประดับคงความแววสวยได้นาน (มากกว่า 5 ปี) ซึ่งการนำตัวเรือนมาชุบใหม่ ก็ทำได้ง่าย และค่าใช้จ่ายประมาณ​ 100-200 บาท

 

 

This entry was posted in สินค้า and tagged . Bookmark the permalink.

Comments are closed.